ข่าวสารสุขภาพ
8 ขั้นตอนการฉีดวัคซีนโควิด-19
กินอย่างไร ให้ปลอดภัยและห่างไกลโควิด-19
12 จุดสัมผัสสาธารณะ เสี่ยงติดโควิด-19
เสริมเกราะกันป่วยช่วงหน้าหนาว
กินอย่างไรห่างไกลโรคเหน็บชา
งดแป้ง ลดพุงได้จริงไหม??
ลดการปรุง ลดโรคร้าย
“สารก่อมะเร็ง”….ที่ปนเปื้อนในอาหาร
สัญญาณเตือนโรคไต..ที่คุณไม่ควรมองข้าม!
1. คุณมีอาการบวม ? อาการบวมตามตัว เกิดจากการที่มีน้ำและเกลือคั่งอยู่ในร่างกาย ระยะแรกอาจมีเพียงการบวมที่หนังตาเเละหน้า ต่อมาจะมีการบวมที่ขาและเท้าทั้งสองข้าง เราสามารถทดสอบได้ด้วยการลองใช้นิ้วกดที่หน้าแข้งสักพักแล้วปล่อย หากพบว่ามีรอยบุ๋มอยู่แสดงว่าบวมแน่นอนเลยละคะ (อาการนี้ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอดได้นะคะ) 2. ปวดหลัง ปวดเอวทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร ? เมื่อไตทำงานหนักมากๆจะเริ่มรู้สึกปวดหลัง ปวดที่บั้นเอว ปวดที่บริเวณชายโครง ร้าวไปถึงท้องน้อย ปวดหัวหน่าวและที่อวัยวะเพศได้นะคะ บางคนถึงขั้นปวดเข้าไปในกระดูกและข้อเลยละคะ ซึ่งอาการนี้อาจเกิดจากการอุดตันที่ท่อไต หรือ กรวยไตอักเสบ นั้นเอง 3.หอบเหนื่อย อ่อนเพลีย ซีด มากกว่าปกติ? ผู้ที่เป็นโรคไต ถ้าเป็นน้อยๆมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หากเป็นมากๆ ใกล้เป็นไตวายเรื้อรังจะมีอาการซีดมากขึ้น คันตามตัว เกิดผื่นเเดงอาการคันเหล่านี้เกิดจากในเลือดมีฟอสฟอรัสสูง เเละไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้ สุดท้ายจะเริ่มเบื่ออาหาร เเละเสียชีวิตได้นะคะ 4. ปัสสาวะมีความผิดปกติ ? เช่น ปัสสาวะมีสีส้มเเดง(เกิดจากมีเลือดปนออกมาเนื่องจากเส้นเลือดฝอยในกรวยไตฉีกขาด) ปัสสาวะเป็นฟอง (มีโปรตีนรั่วออกมากับปัสสาวะ) ปัสสาวะบ่อย โดยปกติเเล้วกระเพาะปัสสาวะเราสามารถเก็บน้ำได้ถึง 250cc. หรือประมาณน้ำเเก้วใหญ่ๆเลยนะคะ เเต่เมื่อไตทำงานผิดปกติ […]
สุขภาพดี…คุณเองก็สร้างได้
อยากผอม อย่า “อดอาหาร”
หลาย ๆ คนเข้าใจผิดคิดว่าการอดอาหารจะทำให้เราผอมได้ แต่ความจริงแล้วกินจนพุงแตกก็ผอมได้เหมือนกัน ถ้าเราเลือกรับประทานอาหารประเภทผักใบเขียวจัด แดงจัด ส้มจัด รวมถึงธัญพืชที่ขัดสีน้อย แทนอาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ เพราะอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยใยอาหารที่ทำให้อิ่มนาน แถมยังมีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ที่นำมาใช้สร้างฮอร์โมนที่ทำหน้าที่เผาผลาญมันในร่างกาย จะขอพูดถึงฮอร์โมนที่ชื่อว่า “ไทรอยด์” เป็นออร์โมนที่ช่วยให้เราหุ่นดี ฮอร์โมนชนิดนี้จะควบคุมการทำงานของทุกเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และ ช่วยควบคุมการเผาผลาญสารอาหารรวมถึงไขมันสะสม ที่สำคัญฮอร์โมนชนิดนี้ไวต่ออะดรีนารลีนมาก เมื่อร่างกายมีการเคลื่อนไหวหรือตื่นตัวมาก ๆ ก็จะมีการดึงเอามันที่สะสมในร่างกายมาใช้และเผาผลาญไขมันได้เร็วขึ้น ถ้าต้องการเสริมการทำงานของฮอร์โมนตัวนี้ให้ทำงานได้ดีมากขึ้น สามารถทานถั่วแดง ลูกเดือย ถั่วเขียว ฝักทอง เมล็ดฝักทอง แครอท และงาดำ เพราะอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วย ไอโอดีน สังกะสี วิตามินบี2 , 6 , 12 และเบต้าแคโรทีน ที่เป็นแร่ธาตุสำคัญในการนำไปสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ **การอดอาหารเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดความอ้วนได้ เพียงแค่ทานให้ถูกหลักโภชนา พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ เท่านี้เราก็มีหุ่นที่ดีได้ไม่ยาก**
“มะเร็งเต้านม” ที่คุณไม่ควรมองข้าม
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการใด ๆ จนกว่ามะเร็งเริ่มมีการลุกลามและแพร่กระจาย ส่งผลให้เต้านมเริ่มมีลักษณะผิดปกติโดยมีอาการดังนี้ 1. เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนไป มีก้อนหรือแผ่นหนาภายในเต้านมหรือบริเวณรอบเต้านมหรืออยู่บริเวณใต้วงแขน 2. เต้านมมีอาการบวมทั้งเต้าหรือบวมแค่บางส่วน (แม้จะไม่รู้สึกว่ามีก้อนใด ๆ) 3. มีอาการระคายเคืองผิวบริเวณหน้าอก ผิวหนังบริเวณเต้านมย่นหรือมีลักษณะเป็นหลุมเหมือนผิวส้ม (peau d’orange) 4. มีอาการเจ็บคัดตึงที่เต้านมหรือบริเวณหัวนมมากและนานกว่าปกติ 5. หัวนมมีลักษณะบุ๋มลึกลงไป ขอบรอบหัวนม (บริเวณผิวคล้ำรอบหัวนม) หรือผิวเต้านมมีสีแดงเป็นสะเก็ดหรือหนาขึ้น 6. มีของเหลวที่ไม่ใช่น้ำนมไหลออกจากหัวนม บางครั้งมะเร็งเต้านมลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองใต้แขนหรือรอบ ๆ กระดูกไหปลาร้าและทำให้เกิดก้อนหรือมีอาการบวมขึ้นที่บริเวณนั้น ๆ ก่อนที่เนื้องอกในเนื้อเยื่อเต้านมจะเริ่มใหญ่มากพอที่เราจะรู้สึกเจ็บได้ ขาเทียม Plastic surgery Thailand
สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ “ต้องทำเอง”
ประโยชน์ของการเดิน ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันการเกิดอาการของโรคสมองเสื่อม ลดการเกิดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และ กล้ามเนื้อหัวใจตาย เสริมสร้างกระดูกให้แข็ง ป้องกันโรคกระดูกพรูน ลดไขมันในหลอดเลือด โคเลสสเตอโรล ไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้นอนหลับสบาย หลับลึก หลับสนิทได้นานตลอดคืน เพิ่มการเผาพลาญพลังงาน ช่วยระบบการย่อยอาหารได้ดีขึ้น ทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวดีขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันภาวะท้องผูก ช่วยเพิ่มออกซิเจน เข้าสู่หลอดเลือดเลี้ยงสมองได้ดีขึ้นทำให้ร่างกายสดชื่น ลดความเครียด ลดภาวะการเกิดโรคอ้วน ห่างไกลจากการเกิดเซลล์ ลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคร้าย ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยสร้างกล้ามเนื้อขา กระชับหน้าท้องและสะโพก เพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกาย ช่วยเพิ่มพลังงาน **การเดินวันละ 30 นาที จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 120-170 แคลอรี่ แต่จะต้องเดินให้ถูกวิธีถึงจะได้ผล**
ประโยชน์ของผักผลไม้ 5 สี
ผักผลไม้สีเขียว โดยสารที่ให้สีเขียวก็คือสารคลอโรฟิลล์ และยังมีสารประกอบอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติบำรุงสุขภาพ เช่น ลูทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็ง และลดการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ ผักผลไม้สีขาวหรือสีน้ำตาล จะมีสารฟลาโวนอยด์อยู่หลายชนิด ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดอาการปวดข้อเข่า ผักผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีน ฟลาโวนอยด์ วิตามินซี ที่่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง กระตุ้นการกำจัดเซลล์มะเร็งของร่างกาย ผักผลไม้สีแดงหรือสีชมพูอมม่วง จะมีสารในกลุ่ม Lycopene และ Betalain ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากของผู้ชาย ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยปริมาณของไขมันร้าย (LDL) ภายในเลือด และบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะ ผักผลไม้สีม่วงแดงหรือสีม่วงหรือสีน้ำเงิน จะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และกลุ่ม Polyphenol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ป้องกันการทำลายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต ช่วยปกป้องทุกเซลล์ให้พ้นภัยจากเซลล์มะเร็งตัวร้าย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผนังหลอดเลือด ช่วยลดการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหารที่ทำให้เกิดท้องเสีย ช่วยต้านไวรัส และลดการอักเสบได้